วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2562

แชมพูมะกรูดสกัดเย็น

จากที่โพสไว้ครั้งก่อนลองทำเเชมพูธรรมชาติ แชมพูที่ทำจากผิวมะกรูดน้ำมะกรูดสกัดเย็นไม่ใส่สารเคมีใดๆทั้งสิ้น  สามารถทำง่ายๆได้เองที่บ้าน เห็นผลตั้งเเต่ครั้งเเรกที่ใช้ อายุ29ปี เเล้วค่ะพึ่งรู้ว่ามะกรูดช่วยขจัดรังเเคได้จริง ตนเองเป็นคนมีรังเเคมาก เป็นขุยๆบ้างแผ่นๆติดผมบ้าง  ซื้อเเชมพูซื้อยาสระผมเเก้เชื้อรามาทาก็ไม่หายลองใช้มาสองอาทิตย์รังเเคหายจริง  ผมมีน้ำหนัก ดกดำ สิ่งดีๆที่อยากบอกต่อขอบคุณอาจารย์นุ่นมากค่ะ

มาแล้วจ้า ถามกันเข้ามาตลอดเวลาแชมพูมะกรูด แชมพูมะกรูด...
จัดไปก่อนยามะกรูดสระผมแบบไม่มีฟอง 100% NATURE ธรรมชาติล้วนๆ
1. ล้างขัดผิวมะกรูดปลอดสารพิษให้สะอาด (ดูวิธีการตรวจสอบสารพิษสารเคมีทางการเกษตรตกค้างเบื้องต้นอย่างง่ายได้ในโพสต์ก่อนหน้านี้ [#นักเคมีหัวใจสีเขียว](https://www.facebook.com/hashtag/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7?source=feed_text&epa=HASHTAG&__xts__[0]=68.ARDKUf2Y4-aVEmj8S5ECL9QFYXxAtJ7MJPAkNzW4GgokLZX6hkxOw7Eu9xlPIw2KAawOYTNbl6MAsYdTO8URca6aBq8Vr4jqeh7JXKrW69iFCFR2D0Gs_qlDFK5u6ObPkjrzPhlH8t7qp6nXwNZtgZG_qUV29eCaaJu_OrA2QV5ZfCqhtHg2j0Zf6DYVfNDsSxMlIgmA_8kOnWUNBZ4x-862KuJ6K2kOz0a11DKdAPg07K6riotVlR1GogimF0mnibRczVjHX6QF05JCyNa5wdeSBmdJuMQnqyiKNqJgRYSDhQtOvEXh9syjSYhcBTouQ70JLja296UieQmTQo5QQho&__tn__=*NK-R)) **กรุณาขัดซอกเปลือกมะกรูดด้วยแปรงนุ่มๆ ด้วยนะค๊า ของดีต้องพยายามกันนิดนึง 55
2. ปอกมะกรูด***เอาแต่เปลือก***ไว้ทำมะกรูดสระผม
-ไม่เอาเนื้อข้างในเด็ดขาด ถากโดนนิดหน่อยไม่ต้องร้องไห้ พอใช้ได้ค่ะ แต่ห้ามเยอะ เข้าใจ๋ 55
สาเหตุที่ไม่เอาเนื้อข้างในเพราะข้างใน คือ กรดซิตริก (citric acid) เป็นกรดเดียวกับกรดในลูกมะนาว เรียกว่า กรดมะนาว (กรดซิตริก)
กรดซิตริกปริมาณน้อยมากมีคุณสมบัติทำให้ผมเงางาม ปริมาณมากกว่านั้นจะกัดหนังศรีษะทำให้แห้ง เส้นผมแห้งแตกปลาย
สูตรที่คนอื่นๆ ทำมักมีกรดตัวนี้อยู่เยอะ ทำให้ใช้แรกๆ รู้สึกดี๊ดี สะอ๊าด สะอาด นิ๊ม นิ่ม อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ใช้ไปใช้มาไม่กี่วัน ไม่กี่สัปดาห์ หนังศรีษะแห้ง ผมเริ่มกลับมากระด้าง คิดสภาพเอาน้ำมะนาวราดผมและหนังศรีษะบ่อยๆ มันจะดีไหมเพราะฉะนั้นไม่เอานะคะ อจน.ขอร้อง ^ ^ **มันคือเคล็ดลับจ้า**)
**ถามกันเข้ามามาก แล้วเหลือเนื้อข้างในเป็นกอง ให้เอาไปทำอะไรคะอจน.
ให้เอามาหมักไว้ทำน้ำยาอเนกประสงค์ทำความสะอาดสารพัดสิ่งได้จ้า***
3. เอาเปลือกมะกรูดที่ได้ใส่ภาชนะเก็บความร้อนเก็บไอระเหย คือ ค่อนข้างเป็นระบบปิดได้ชั่วคราว ต้มน้ำสะอาดพอร้อนๆ (อย่าให้เดือดจ้ะ) เทใส่ในภาชนะดังกล่าวจนท่วมผิวเปลือกมะกรูด รีบปิดฝาภาชนะ (น้ำอย่าเยอะ จะทำให้ไม่เข้มข้น และทำให้เสียได้ง่าย อย่าลืมของเราไม่มีสารกันบูดกันเสียนะจ๊ะ ผมสวยอมตะนิรันดร์กาล ไม่พึงพาสารเคมีใดๆ จ้า อีกอย่างความเป็นกรดเราจะน้อยมากๆ ถ้าไม่ผิดสูตรทุกคนจะได้ความเป็นกรดด่าง pH มากกว่า 5 นะจ๊ะ อันนี้อจน.ทดสอบได้ตลอด เป็นค่าที่เหมาะกับผิวและหนังศรีษะที่มี pH ประมาณ 5.5 เพราะของเราอ่อนโยน จึงอาจเสียง่ายกว่าที่เค้าขายกันทั่วไปที่เป็นกร๊ด กรด 555)
**ในขั้นตอนนี้ อจน.เรียกมันว่า การสกัดน้ำมันหอมระเหยแบบอุ่น (บางคนเรียก สกัดเย็น เพราะมันไม่เดือด ดังที่เรียก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แต่พออจน.เรียกสกัดเย็น ชาวบ้านที่ไปสอนมักงงเป็นไก่ตาแตก มันไม่เย็นนะคะอาจารย์ โอเค "สกัดอุ่น" ค่ะ นักวิชาการผู้ทำการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ดีต้องพูดจาภาษาเดียวกับชาวบ้านเป็น คุยกับทุกคนรู้เรื่อง 555)
***ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด จำไว้ว่า สารออกฤทธิ์แก้ผมร่วง ช่วยเรื่องผมหงอก คือ สิ่งที่เราเรียกมันว่า "น้ำมันหอมระเหยเปลือกมะกรูด" ชื่อขึ้นว่า "ระเหย" หมายถึง กลายเป็นไอได้ง่ายที่อุณหภูมิห้อง หมายความว่า ถ้าใช้ความร้อนสูงความร้อนนาน มันก็จะหายไป ลอยไปกับอากาศเยอะแว้ว เข้าใจยังคะเพราะฉะนั้นโดยทั่วไปที่เราเห็นคนทำ คือ เอาไปต้ม เอาไปเคี่ยว กวนไปกวนมาที่เวลาร้อนสูงนั้น เป็นการทำลายสารออกฤทธิ์แท้ๆ เลยจ้า หมดกัน!!! จบข่าว ไปขั้นตอนต่อไปได้ 555
4. ปิดฝาภาชนะทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง (ภาชนะที่ดีในส่วนนี้น้ำจะยังอุ่นๆ อยู่ค่ะ) สิ่งที่ได้คือออกมาคือ น้ำใสๆ สีเหลืองสดใส (ถ้าเป็นสีอื่น เช่น สีน้ำตาล สีดำ สีตุ่นๆ คือ เจอสารพิษจ้ะ ห้ามนำมาถูกตัวเราเด็ดขาด ให้ทิ้งไปๆ) น้ำใสๆ สีเหลืองสดใสนี่เรียกว่า "น้ำสกัดเปลือกมะกรูดเข้มข้น"
**น้ำมันหอมระเหยจากผิวมะกรูดไทย (Kaffir Lime, Citrus hystrix DC)
มีลักษณะใสมีสีเหลืองอ่อนๆ กลิ่นหอมสดชื่น สรรพคุณช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย แก้วิงเวียน คัดจมูก ลดอาการซึมเศร้า ช่วยให้อากาศสะอาดสดชื่น ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ รักษาอาการคันหนังศีรษะและป้องกันรังแค โดยออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ เช่น เชื้อราบนหนังศีรษะ รักษาอาการระคายเคืองและอาการหนังศรีษะอักเสบ ทำให้หนังศรีษะชุ่มชื้น
***น้ำมันหอมระเหยปกติจะผ่านเข้าสู่ร่างกายทางการสูดดม การที่สามารถได้กลิ่นได้ แสดงว่าต้องผ่านเยื่อบุจมุกที่มีความชื้นสูงได้ แสดงว่าโครงสร้างของโมเลกุลนั้นมีส่วนที่ละลายน้ำได้ดี (นอกจากละลายน้ำมันได้ดี) แสดงว่า เราควรจะสกัดออกมาด้วยน้ำได้ อันนี้อจน.คิดเอง และทำสำเร็จแล้วจริงออกมาเป็นแชมพูธรรมชาติที่ทุกคนวางใจนี่แหละค่า ^ ^***
ปล. ในขั้นตอนนี้ใครแอบถากเอาเนื้อมะกรูดไปเยอะ น้ำจะขุ่นนะจ๊ะ
(อย่ามาหลอก อจน.รู้ 555 ย้ำอย่าขี้เกียจนะ เอาแต่เปลือกเห๊อะ เดี๋ยวผมและหนังศรีษะแห้งจ้า)
5. เอาสิ่งที่ได้ทั้งหมดมาปั่นๆ ด้วยเครื่องปั่นพลังงานมหาศาล (ที่ต้องใช้เครื่องปั่นพลังมหาศาลเพราะ ของเราไม่มีการต้ม การเคี่ยว เปลือกจะไม่นิ่มเละมาก สภาพยังเก็บน้ำมันหอมระเหยได้อยู่เยอะ อยากดูโครงสร้างผิวเปลือกมะกรูดที่มีลักษณะเป็นถุงๆ ไว้เก็บน้ำมันหอมระเหยอันมหัศจรรย์พันลึกก็ดูในรูปนะคะ เป็นรูปที่ถ่ายภายใต้กล้องจุลทรรศน์ 555 มาถึงตอนนี้มีใครสนใจอยากมาเรียนเคมีธรรมชาติ (เชิงลึก) กับอจน.บ้าง ^ ^
***ข้อควรระวัง อย่าพยายามฝืนกับเครื่องปั่นมาก เพราะมันเจ๊งง่ายมากค่ะ ของที่บ้านตายไปแล้ว 1 ยี่ห้อดังซะด้วย T T
สามารถเอาน้ำต้มสะอาด (ที่เย็นแล้ว) เติมเพิ่มลงไปได้ เพื่อถนอมเครื่องปั่น 555 (เครื่องปั่นราคาแพงกว่าแชมพูมาก)
6. เสร็จแล้ว สิ่งที่ได้คือ มะกรูดสระผมแบบไม่มีฟอง 100% NATURE สูตรอจน.นักเคมีสีเขียวค่า
ใช้สระใช้หมักได้เลย ไม่ต้องใช้แชมพูสระก่อนและครีมนวดผมตาม
***บางคนบ่นว่ามันเหลวเกินไป ก็อย่าใส่น้ำเยอะ เลือกเอาว่าถนอมเครื่องปั่นหรือถนอมความรู้สึก 555
***บางคนบ่นว่ากากมะกรูดมันไม่นิ่มไม่เกาะผมเลยค่ะอจน. อันนี้ก็ถูกแล้วนะคะ 55
ไม่นิ่มระดับที่ 1. เครื่องปั่นประสิทธิภาพไม่ถึง (ซื้อใหม่??)
ไม่นิ่มระดับที่ 2. ก็เปลือกมะกรูดเราไม่เละเหมือนชาวบ้านที่เค้าทั้งต้มทั้งเคี่ยว
อยากได้นิ่มๆ ให้แยกเอาตัวเปลือกมะกรูดมาเคี่ยวต่างหาก (ห้ามเอา "น้ำสกัดเปลือกมะกรูดเข้มข้น" สีเหลืองผ่องของเรามาให้ความร้อนอีกเด็ดขาด เสียของ!!) จากนั้นทิ้งไว้ให้เย็นแล้วค่อยเอาไปปั่นกับน้ำสกัดเปลือกมะกรูดเข้มข้นจ้ะ (พูดเหมือนง่าย แต่ทำมันยุ่ง อยากลองก็ต้องลองดูๆๆ ^ ^)
***ถ้าไม่สนใจที่ความรู้สึกนิ่มและเกาะเส้นผม สิ่งที่เราได้ คือ สรรพคุณที่ดีที่สุดแล้วน้า***

-การเก็บรักษา ถ้าอยากเก็บไว้ได้นานให้เก็บในตู้เย็นจ้า (ได้สักครึ่งปีอยู่น้า ก่อนใช้ไม่อยากเย็นหนังศรีษะก็เอามาตั้งข้างนอกให้หายเย็นก่อนนะคะ 55 ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องก็สักเดือนได้อยู่ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ทำค่า

วันนี้อจน.เหนื่อยแล้วแค่นี้ก่อนนะคะ ครั้งหน้าค่อยมาต่อสูตรฟองกัน
วิชาการภาคบริการประชาชน
#นักเคมีหัวใจสีเขียว
รักษาภูมิปัญญาบรรพบุรุษ เพิ่มประสิทธิภาพการนำไปใช้ด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จ้า

ใครอยากเผยแพร่ต่อก็ได้เลยนะคะ แต่ทำความรู้จักคนคิดนิดนึง อจน.เอง ^ ^

**ผู้ศึกษาและวิจัย ผศ. ดร.ชมพูนุท วรากุลวิทย์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น